อะตอม(Atom)
ประวัติอะตอม(History of Atoms)
ตั้งแต่สมัยโบราณนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติของสสารเรื่อยมา
จนถึงปัจจุบันนี้จากอุดมการณ์ ความคิด
และการสะสมประสบการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาและเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสสาร
โดยคำนึงถึงโครงสร้างของสสารนั้นๆ
จากนั้นต่อมาได้เริ่ม
ก่อรูปร่างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 19 ด้วยทฤษฏีของนักวิทยาศาสตร์หลายๆท่านด้วยกัน
จนกระทั่งพบว่าสสารนั้นประกอบไปด้วย อะตอม
โมเลกุล และไอออน
เมื่อประมาณ 400 ปีก่อนคริสตศักราช เดโมคริส
นักวิทยาศาสตร์ชาวกรีก ได้นำเสนอแนวคิดแรกเกี่ยวกับอะตอม
ต่อมาได้มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านด้วยกันที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ
และให้ความสนใจในเรื่องของอะตอม
จึงได้ทำการทดลองอย่างหลากหลายวิธี โดยมีความสัมพันธ์กันไปอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นพบว่าอะตอมแต่ละอะตอมนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกัน ผลจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์หลายๆท่าน
ได้ให้ข้อมูลและอธิบายรูปร่างโครงสร้างของอะตอมอย่างลึกซึ้ง
แต่ไม่ได้เหมือนกันมากนักเพียงแต่มีความสัมพันธ์กันบ้างเท่านั้น แต่ที่สรุปได้คลายคลึงกันมากนั้นก็คือ อะตอมมีรูปร่างลักษณะคล้ายทรงกลม ภายในบรรจุอนุภาคมูลฐานซึ่งประกอบไปด้วย โปรตอน(ประจุบวก) นิวตรอน
และอิเล็กตรอน(ประจุลบ) เราสามารถจำแนกและเรียงลำดับความสำคัญของอะตอมจากผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ได้ดังนี้
บทที่ 1 โครงสร้างอะตอมของดาลตัน
ที่มา : http//commons.wikimedia.org
|
วันที่เกิด
: วันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ. 2309
สถานที่เกิด
วันที่เสียชีวิต
งานที่เป็นที่รู้จัก
ลายเซ็น
|
John Dalton
|
|
1.1 ชีวประวัติของจอร์น
ดาลตัน
ดาลตันเกิดในฤดูหนาวในประเทศอังกฤษ พ.ศ. 2309 บิดาและมารดาเป็นคนในนิกายแควกเกอ
โดยบิดาประกอบอาชีพทอผ้า เมื่อดาลตันเติบโตมาเป็นหนุ่มเขาเป็นเด็กชายที่มีสุขภาพแข็งแรง
มีความอดทนและมีความคิดที่สร้างสรรค์ ช่างขี้สงสัย เมื่อครูให้ทำงานยากๆ
ดาลตันจะไม่ยอมแพ้หรือขอให้ครูบอกคำตอบ แต่เขาจะทำด้วยตัวเองให้ได้
บางครั้งก็มีการพนันกับเพื่อนในเรื่องของการทำงานในวิชาต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยวหรือแม้แต่งานกลุ่มก็ตาม
ดาลตันสามารถทำงานได้อย่างคล่องแคล่วและมีความอดทน
จนกระทั่งดาลตันอายุครบ 12 ปี และมีความรู้
ความสามารถ ที่พอจะเป็นครูสอนหนังสือได้แล้ว ดาลตันจึงได้ปิดประกาศไว้ที่หน้าบ้านของตนว่า
รับจ้างสอนหนังสือ พร้อมกับแจกกระดาษ ปากกาและหมึกฟรี สมัยนั้นกระดาษ ปากกา
และหมึกหายากที่สุดในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผู้คนสนใจมาเรียนกันมากมายตั้งแต่เด็กๆจนอายุ
17 ปีก็ยังมี ดาลตันจึงได้เปลี่ยนแนวความคิดโดยใช้บ้านของตนเป็นโรงเรียน
โรงเรียนได้ดำเนินการเรียนการสอนไปด้วยดี แต่เมื่อดาลตันอายุ 15 ปี เขาก็หันมาเข้าหุ้น
ทำกิจการร่วมกับพี่ชายที่เปิดโรงเรียนอยู่แล้ว
สองพี่น้องได้นำเอาวิชาเทคนิคไปสอนในโรงเรียน
เพื่อหารายได้เพิ่มมากขึ้น แม้แต่ช่วยชาวเมืองในการดำเนินกิจการ
รวมทั้งการเขียนมรดกให้ด้วยปากกาในสมัยนั้นการเขียนมรดกหรือพินัยกรรมมีอานุภาพมาก นอกจากนี้ดาลตันได้หันมาทำนายดินฟ้าอากาศเพื่อเพิ่ม
ความรู้ทางลมฟ้าอากาศให้แก่ชาวนา ในทุกๆวันของดาลตัน เขาต้องคอยสังเกตลมฟ้าอากาศเกือบทุกๆชั่วโมงเป็นกิจวัตรที่ทำติดต่อกันมาเป็นเวลา
57 ปีจนเสียชีวิต เขาใช้เครื่องมือหยาบๆ ที่ทำเองที่บ้าน ทำการวัดปริมาณน้ำฝน
ในท้องที่ที่ฝนตกทุกวัน และได้ขายเครื่องมือเหล่านี้ให้แก่ชาวนา เพื่อต้องการให้ชาวบ้านได้ช่วยสังเกตดินฟ้าอากาศร่วมกันด้วย
ต่อมาได้มีการเผยแพร่แนวความคิดของดาลตันขึ้นมา
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ ปรัชญาอันได้มาจากการสังเกตของดาลตัน
ประกอบด้วยเรื่อง กฎของการเคลื่อนไหว สี ลม เสียง พระจันทร์ที่ขึ้นในเวลาเดียวกัน
จันทรุปราคา ดาวพระเคราะห์และ น้ำขึ้นน้ำลง แต่การเผยแพร่ครั้งนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้
เนื่องจากชาวบ้าน ประชาชนที่รู้จักกับดาลตันไม่มีความกระตือรือร้นอยากที่จะรู้
หรืออยากที่จะลอง เช่นเดียวกันกับหนังสือไวยากรณ์
ซึ่งสอนในเรื่องการผูกประโยคอังกฤษที่เขาเป็นคนเขียน ก็ขายได้จำนวนน้อย
วันหนึ่ง ดาลตันซื้อถุงมาให้แก่มารดา มารดาของเขารู้สึกยินดีที่ได้รับของชิ้นนี้มากและในเวลาเดียวกัน
ก็รู้สึกฉงนใจด้วยจึงเอ่ยถามดาลตันว่า "แกซื้อของถุงมาให้แม่น่ะดีทีเดียว
แต่นึกยังไงถึงเอาอย่างสีแจ๊ดมาเล่า" ดาลตันตอบกลับไปว่า "นี่แหละเป็นสีที่เหมาะสำหรับเอาออกสังคม
ก็มันไม่ใช่สีน้ำเงินแก่ที่รักษามารยาทเหรอ"
จอห์น ดาลตันเขาเจอเหตุการณ์แนวนี้หลายครั้งจนเขาได้จัดตั้งทฤษฎีอธิบาย
และปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น ซึ่งที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่าตาบอดสี
นั่นเอง
ดาลตันเข้าไปมีส่วนร่วมในการทดสอบความรู้ ในด้านของเคมี
ซึ่งบรรดานักเคมีในสมัยนั้นก็ยังไม่สามารถจับหลักในการแปรผัน
ของส่วนผสมของเครื่องยาเคมีต่างๆได้ การค้นพบหลักเช่นนี้ ทำให้ดาลตันต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
และความคิดอันสำคัญยิ่งก็ปรากฏในสมองของเขาทีละน้อยๆ
โดยอาศัยความรู้ทางด้านฟิสิกส์มาช่วยเพิ่มเติม
จอห์น ดาลตันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2387
ที่เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) ประเทศอังกฤษเนื่องด้วยสาเหตุใด มิอาจระบุได้
1.2 แบบจำลองอะตอมของจอร์น ดาลตัน
|
แบบจำลองอะตอม
|
ที่มา : www.proton.rmutphysics.com
แบบจำลองอะตอม
คือมโนภาพที่นักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้น จากข้อมูลทีได้จากการทดลอง เพื่อใช้อธิบาย ลักษณะของอะตอม แบบจำลองอะตอมที่สร้างขึ้นสามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ถ้ามีผลการทดลองใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งแบบจำลองอะตอมเดิมอธิบายไม่สามารถได้ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงเสนอแบบจำลองอะตอมใหม่ขึ้นมาให้สอดคล้องกับผลการทดลอง ดังนั้นจึงพบ
ว่าแบบจำลองอะตอมได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยมานับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึง
ณ ปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2346 จอห์นดาลตัน ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับอะตอม มีข้อความสำคัญสรุปได้ดังนี้
-
สารประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก เรียกว่า
อะตอม แบ่งแยกไม่ได้ จะสร้างขึ้นใหม่หรือทำลายให้สูญหายไปไม่ได้
-
อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันจะมีมวลเท่ากัน มีสมบัติเหมือนกัน
แต่จะแตกต่างกันจากอะตอมของธาตุอื่น
-
สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของอะตอมของธาตุตั้งแต่
2
ชนิดขึ้นไป
และมีอัตราส่วนการรวมตัวเป็นตัวเลขง่ายๆ
-
อะตอมของธาตุ 2
ชนิดอาจรวมตัวกันด้วยอัตราส่วนต่างๆกัน เกิดเป็นสารประกอบได้หลายชนิด
ในสมัยต่อมา
ได้มีการทดลองทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับอะตอมเพิ่มมากขึ้น จึงมีการค้นพบใหม่บางประการที่ไม่สอดคล้องกับแนวคิดของดาลตัน ดังนี้
1. พบว่าอะตอมประกอบด้วยอนุภาคเล็กๆ
ซึ่งอยู่ภายในอะตอม ได้แก่ อิเล็กตรอน
โปรตอน นิวตรอน
2. พบว่าอะตอมสร้างขึ้นใหม่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลีย
3. พบว่าอะตอมของธาตุชนิดเดียวกัน มีมวลต่างกัน ซึ่งเรียกแต่ละอะตอมว่า ไอโซโทป
4. พบว่าปรากฏการณ์ที่เกิดในหลอดรังสีแคโทด ใช้แนวคิดของดาลตันอธิบายไม่ได้
1.3 สรุปโครงสร้างอะตอมของจอห์นดาลตัน
จากการศึกษา
ค้นคว้า และรวบรวมข้อมูลในเรื่องของโครงสร้างอะตอมของจอห์นดาลตัน พบว่า
โครงสร้างอะตอมของจอห์นดาลตันนั้นมีลักษณะเป็นทรงกลมตัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น